วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


โครงงานอาชีพ

เรื่อง การทำพวงกุญแจจากลูกปัด
                                                                                

                     
อาจารย์ที่ปรึกษา

อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด

 

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ CAI ช่วยสอน

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 5/3

ภาคเรียนที่2ปีการศึกษา2556

โครงงานอาชีพ

เรื่อง การทำพวงกุญแจจากลูกปัด
                                                                                  
คณะผู้จัดทำ

                       นางสาว ปิยภรณ์ อ่อนเนตร เลขที่15

                       นางสาว เยาวลักษณ์ สุขสำราญ เลขที่ 22

นางสาว วิไลพร พุฒโสม เลขที่ 24

 

อาจารย์ที่ปรึกษา

อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด

คำนำ

โครงงานอาชีพนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ CAI ช่วยสอน

ซึ่งคณะผู้จัดทำมีความสนใจในเรื่อง การทำพวงกุญแจจากลูกปัดจึงได้ศึกษาค้นคว้าและหาข้อมูลเพื่อจะนำมาทำโครงงานชิ้นนี้คณะผู้จัดทำได้หวังว่า โครงงานวิชาคอมพิวเตอร์ CAI ช่วยสอนชิ้นนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้สนใจ และเพื่อนๆเยาวชนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก            

 และการจัดทำโครงงานครั้งนี้สำเร็จรุร่วงไปได้ดัวยดีเนื่องจากได้คำปรึกษาจาก อาจารย์ อนุสรณ์ ฤกษ์บางพลัด กลุ่มของพวกเราจึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้

 

                                                                                                                 คณะผู้จัดทำ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                          สารบัญ

เรื่อง                                                                                  หน้า

บทที่1 บทนำ                                                                          1

  -ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง                                                            2-5

 -เอกสารที่เกี่ยวข้อง

บทที่3 วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนวิธีดำเนินงาน                                     6

 -วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการดำเนินงาน

บทที่4 ผลการเรียนรู้                                                                 7-20

 -ผลการเรียนรู้

บทที่5 สรุปผลและอภิปรายผลงาน                                                                  21

 -สรุปผลและอภิปรายผลงาน

ภาคผนวก                                                                                                         22-24

อ้างอิง                                                                                                               25

 

 

 

 

บทที่1

บทนำ

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

      เนื่องจากโรงเรียนของเราหรืออื่นหลายๆโรงเรียนมีกฎให้ใช้กระเป๋าของโรงเรียน จึงทำให้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องวางกระเป๋ารวมกัน จึงมักจะหยิบกระเป๋าสลับกันบ่อยๆ และในบางคน ที่ชอบนำของมีค่า เช่น เงิน กระเป๋าเงิน  โทรศัพท์   หรือของมีค่า ต่างๆไว้ในกระเป๋า จึงทำให้คนที่หยิบกระเป๋าผิดไป อาจค้นกระเป๋าและทำของมีค่าไป  พวกเราจึงมีความคิดว่าถ้าหากนำพวงกุญแจที่มีสีสัน และลวดลายที่แตกต่างกันไปมาห้อยกระเป๋า จะทำให้ไม่มีการหยิบกระเป๋าสลับกัน และของมีค่าก็อาจจะไม่หาย อีกทั้งวัยรุ่นสมัยนี้ ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม จึงอยากได้สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม จึงทำให้พวงกุญแจของพวกเราสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้.

จุดมุ่งหมายของโครงงาน

1.            เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม

2.            เป็นการสร้างรายได้ระหว่างเรียน

3.            เพื่อฝึกการทำพวงกุญแจ

4.            เพื่อศึกษาประวัติและวิธีทำพวงกุญแจ

สมมุติฐาน

หวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการทำโครงงาน เพื่อนำไปประกอบอาชีพในอนาคต และสามารถประยุกต์การทำพวงกุญแจเป็นรูปต่างๆ

 ขอบเขตการศึกษา

ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับพวงกุญแจ

 

                                   

บทที่2

                                                       เอกสารที่เกี่ยวข้อง

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ความหมายของลูกปัด

ลูกปัด คือวัตถุที่มีลักษณะเป็นเม็ด มีรูอยู่ตรงกลาง เพื่อใช้ร้อยด้ายหรือเชือกลูกปัดถูกใช้เป็นหลักฐานทางโบราณคดีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เนื่องจากมักมีการขุดพบลูกปัดมากมายในแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ทั้งหลาย ลูกปัดโบราณที่ขุดพบนั้นทำมาจากวัสดุต่างๆ อาทิ

1.ลูกปัดหิน และแร่หินมักถูกนำมาขัดแต่งเป็นลูกปัด มาจากวัสดุต่างๆ เช่น หินคาร์เนเลี่ยน (Carnelian), หินโมรา (Agate), หินเจสเปอร์ (Jesper), หินออนนิกซ์ (Onyx), หินคาลซิโลนี (Chalcedony), หินเขี้ยวหนุมาน (Guartz)

2.ลูกปัดดินเผา

3.ลูกปัดกระดูกสัตว์เปลือกหอย

4.ลูกปัดโลหะ สำริด ทอง

5.ลูกปัดแก้วที่ผลิตขึ้นจากแร่ธาตุต่างๆ

จากการศึกษาลูกปัดในทางโบราณคดี น่าเชื่อได้ว่าลูกปัดนอกจากจะใช้เป็นเครื่องประดับแล้ว ยังถือว่าเป็นเครื่องรางของขลัง, เป็นเครื่องมือสำหรับแลกเปลี่ยน ซื้อ ขาย แทนเงินตรา และอาจมีเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย

ลูกปัดเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกมาแทบทุกยุคทุกสมัยการค้นคว้าเรื่องราวของลูกปัดนั้น เชื่อว่ามีมายาวนานนับหมื่นปีซึ่งลูกปัดในยุคนั้นทำมาจากเมล็ดพืช กระดูกสัตว์ เขี้ยวสัตว์ เปลือกหอยและหินที่มีรูอยู่แล้วตามธรรมชาติ เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการมากขึ้นการทำลูกปัดก็ซับซ้อนขึ้น สวยงาม แปลกตาเพิ่มขึ้นเช่นการตกแต่งลวดลายลงไปบนเนื้อหินมีค่า เช่น อาเกต และคาร์เนเลียน เรียกว่าเอตช์คาร์เนเลียน (etched carnelian) ของอินเดีย และซีบีท (dZi beads) ของทิเบต

เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว เชื่อว่ามีการผลิตลูกปัดจากแก้วเพื่อทดแทนลูกปัดจากหินมีค่า เช่นอาเกตและคาร์เนเลียนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในยุคนั้น ซึ่งเริ่มหายากและราคาแพงทำให้ผู้คนในยุคนั้นสามารถหาลูกปัดแก้วที่ถูกผลิตขึ้นมาสวมใส่มาทดแทนได้ไม่ยากนักแหล่งที่มีการผลิตลูกปัดแก้วโบราณที่สำคัญมีอยู่ 3 แหล่ง คือ

1.อียิปต์ (Egyptian)

2.โรมัน (Roman)

3.กลุ่มประเทศอิสลาม ทางตะวันออกกลาง (Islamic influenced Eastern Midditeranian)

ความเป็นมาของลูกปัดแก้ว

แก้วเป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่มนุษย์รู้จักมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 14,000 ปีมาแล้ว เป็นแก้วที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากฟ้าฝ่าลงมาบนพื้นทรายเกิดเป็นแท่งแก้วยาวคล้ายรากไม้ หรือแก้วที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ เรียกว่าหินออบซิเดียน(Obsidian) ซึ่งคนสมัยโบราณจะนำมาทำอาวุธ เช่น มีด ขวาน และหัวธนูนักโบราณคดีสันนิษฐานว่าชาวโพนีเซียนน่าจะเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่คิดค้นวิธีการทำแก้วได้จากนั้นชาวอียิปต์และกลุ่มประเทศใกล้เคียงจึงใช้แก้วที่ทำขี้นมานั้น มาขูดหรือเกลากับหินเพื่อทำเป็นลูกปัด ต่อมาก็วิวัฒนาการเครื่องมือเพื่อใช้เป็นแม่พิมพ์

ลูกปัดทวารวดี

ลูกปัดทวารวดีเป็นลูกปัดที่แสดงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นลูกปัดที่ผลิตจากดินเหนียวในหนังสือ "The History of Beads" ของ Lois SherrDubinได้กล่าวถึงไว้ว่าลูกปัดแก้วในยุคบ้านเชียง จะมีการผลิตควบคูไปกับการผลิตภาชนะพวกหม้อ ไหและเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากเหล็ก (iron) ประมาณเมื่อ 2,300 ปีมาแล้วลูกปัดในยุคแรกส่วนใหญ่จะมีสีส้มแดง (สีมันปู) และบางส่วนมีสีน้ำเงิน เหลือง

แต่เป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนที่สนใจลูกปัดโบราณว่า สีของลูกปัดทวารวดีนั้นมีทั้งหมด 19 สี แต่ละสีมีคุณสมบัติ แตกต่างกันไปตามความเชื่อว่าหากผู้ใดได้ครอบครองลูกปัดทวารวดีทั้ง 19 สี จะทำให้ผู้นั้นไม่ตกทุกข์ได้ยากไม่ลำบาก และแคล้วคลาดจากอันตราย ปกป้องให้พ้นจากเดรัจฉานวิชา ตลอดจนเขี้ยวงาอาวุธส่งเสริมบารมี เงินทองไหลมาเทมา โดยจะใช้เป็นเครื่องประดับสวมคอ และข้อมือคุณสมบัติของสีอาจแตกต่างกันไปบ้าง แล้วแต่ท้องถิ่น คุณสมบัติของลูกปัดทวารวดี ทั้ง 19 สี มีดังนี้

1.ทวารวดีแท้ ถือว่าดีที่สุด หายากที่สุด สีออกน้ำตาลเนื้อละเอียด คุณสมบัติใช้ป้องกันอาวุธต่างๆ อาทิ ดาป แหลน หลาว ธนูหน้าไม้

2.ทวาลูกยอ มีลวดลายคล้ายลูกยอ มีคุณสมบัติ ใช้ต้มกับลูกยอเป็นยารักษาโรคได้

3.ทวาหัวดำ ท้ายดำ ตรงกลางขาว ใช้ป้องกันเช่นเดียวกับทวารวดีแท้

4.ทวาหัวเทียน หัวดำ จะทำให้เกิดไหวพริบ ปฏิภาน เฉลียวฉลาดหลักแหลม

5.ทวาอำพันทอง อยู่ยงคงกระพัน กันโรคนิ่ว หมากัดไม่เข้าเงินทองไหลมาเทมา ป้องกันสามีมีชู้

6.น้ำเงินเนื้อกษัตริย์มีอำนาจวาสนา ส่งเสริมวาสนาให้สูงส่ง นำโชค

7.หยก ป้องกันอุบัติเหตุกันผี เป็นมหามงคลอันอุดม

8.เหลือง มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม คนรักใคร่ไม่เกลียดชัง

9.เหลืองสวาท หรือเหลืองตองอ่อน เสน่ห์แรงคนรักใคร่ลุ่มหลง

10.แสลน ป้องกันอุบัติเหตุป้องกันสามีมีชู้

11.หยกขาว ให้อายุมั่นขวัญยืน ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไข้

12.ฟ้า มีโชคลาภ ร่ำรวย

13.ดำ กันผีสาง กันขโมยนำโชคมาสู่

14.เขียวหนุมาน (แก้วสารพัดนึก)นึกอะไรได้ทั้งนั้น

15.ส้มมันปู อยู่ยงคงกระพัน ร่ำรวย ไม่อดอยากดูดพิษสัตว์ได้

16.น้ำผึ้ง มีวาสนา มีความสุขมีชีวิตสดชื่นอยู่เสมอ

17.สีอิฐ ป้องกันเขี้ยวงาอสรพิษกัดต่อย

18.สีแดงเข้ม มีอำนาจดุจพญาราชสีห์คนไม่กล้าทำร้าย

19.สีม่วง คนเมตตาสงสาร นำทรัพย์สินมาให้ อุปถัมภ์และคอยให้ความช่วยเหลือ

 

อุปกรณ์คราวนี้ค่อนข้างน้อย แต่หลากหลายตรง ลูกปัด

1.ลูกปัด แบบต่างๆ ไซส์ต่างๆ สีต่างๆ แล้วแต่แบบที่เราต้องการทำ ส่วนใหญ่นิยมร้อยด้วยคริสตัล คงเพราะมีหลายสี หลายขนาด

2.เอ็น แนะนำให้ใช้เอ็นดีหน่อย เนื่องจากควรใช้เอ็นเบอร์เล็กในการร้อยไว้ก่อนเนื่องจากบางแบบมีการสวนเอ็นเยอะมาก ยุจะใช้ขนาด 0.20-0.25

3.อุปกรณ์เพิ่มเติมก็เช่น ที่ห้อยโทรศัพท์ ห้อยพวงกุญแจ ห่วงคล้อง กระดิ่ง ของตกแต่งอื่นๆ เดี๋ยวครั้งต่อๆไปยุจะนำเสนอเรื่องการมัดเงื่อนมงคลนิดหน่อย เอามาประกอบกันได้จะได้ไม่ต้องซื้อสายคล้องเพิ่มแค่ใช้เชือกก็พอ สวยด้วย

(บอกเอาไว้ก่อนจะได้มีคนช่วยเตือนไม่งั้นเดี๋ยวลืมหมด)

การร้อยลูกปัด คริสตัล แบบลอยตัวนี้ ยุขอแบ่งเป็น2แบบ คือ

1.การร้อยลูกปัด แบบแบนใช้พื้นฐานการร้อยแบบเดิม แต่มีสองด้าน บนกับล่างประกอบกัน ดูด้านข้างจะแบน

2.การร้อยลูกปัด แบบเป็นรูปร่างจะมองเห็นหน้าหลัง บนล่าง ซ้ายขวา เป็นมิติเหมือนของจริง แบบนี้เราต้องมาศึกษาพื้นฐานอีกแบบค่ะ

ยุขอเริ่มจากแบบที่2ก่อนนะคะ เพราะแบบแรกส่วนมากจะร้อยได้กันอยู่แล้ว

การร้อยแบบนี้ยุขอนำ การร้อยลูกปัด แบบทรงกลมมาเป็นพื้นฐานใน การร้อยลูกปัด แบบอื่นๆต่อไปนะคะเพราะว่าง่ายสุดแล้ว

บนล่าง ซ้ายขวา หน้าหลัง เหมือนกันหมด แค่นำมาเล่นสี ชนิด ขนาดของลูกปัด บวกการตกแต่งเพิ่มเติม เราก็จะร้อยอะไรได้มากมาย

การร้อยลูกปัด แบบทรงกลม

เนื่องจากทรงกลม ไม่มีด้าน มองมุมใหนก็เหมือนกัน(ถ้าใช้สีเดียว) การร้อยประกอบกันเป็นทรงกลมจึงเกิดจากการ ร้อยลูกปัด คริสตัล จำนวนเท่ากันในทุกวง

 

 

 

บทที่ 3

วัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการดำเนินงาน

         วัสดุอุปกรณ์

1.เอ็น
2. กรรไกร
3.ลูกปัด

ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน

  1. แบ่งกิจกรรตามหน้าที่
  2. สืบค้นหาข้อมูล
  3. รวบรวมข้อมูล
  4. จัดทำเป็นรูปเล่มที่สวยงาม
  5. จัดทำเป็นโครงงานนำเสนอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                                    บทที่ 4
ผลการเรียนรู้

             จากการศึกษาค้นคว้าและฝึกทำพวงกุญแจผลที่ได้คือพวกเราได้เรียนรู้วิธีการทำ               พวงกุญแจรูปดาว,โดเรมอน,รูปสุนัข,รูปกระต่ายที่ถูกวิธี และพวงกุญแจได้วิธีข้างล่างนี้

วัสดุอุปกรณ์

1.กรรรไกร 

2.ลูกปัดหลายสี

3.เอ็น

ขั้นตอนการทำรูปดาว
 
 1.ตัดเอ็นประมาร 1 วา
                                         


 

2.เอาลูกปัดกลม1ลูกร้อยใส่ข้างใดข้างหนึ่ง


3.เอาลูกปัดวงรีร้อยใส่ลูกละ1ข้าง
 
 
 
4.เอาลูกปัดกลม1ลูกมาสวนกัน
 
 
 
 
5.แล้วร้อยแบบนี้ไปเรื่อยจนได้12ชุด
 
 
 
 
6.ไม่ต้องเอาลูกปัดกลมมาสวนอีก   เอาไปสวนลูกแรกที่ร้อยมา
 
 
 
7.เอาลูกปัดกลมมาใส่เอ็นลูกละข้าง
 
 
 
8.เอามาสวนลูกปัดที่ร้อยมานักไปลูกที่สองค่อยสวน   ทำไปจนได้เป็นรูปดาว ก็เสร็จสมบูรณ์


ภาพเสร็จสมบูรณ์
วิธีทำ
การทำพวงกุญแจรูปโดเรมอน
อุปกรณ์ในชุดประกอบด้วย
 1. เอ็นร้อยลูกปัด
2. ลูกปัด สีฟ้า
3. ลูกปัด สีแดง
4. ลูกปัดสีฟ้า
5.กรรไกร
 1.ตัดเอ็นประมาณ 2วา
 
 
 
2.เอาลูกปัดมาร้อยใส่เอ็น 7 ลูก

3.เอาลูกปัดมาร้อยเป็นรูปวงกลมเพื่อที่จะทำตัว
 



4.เอาลูกปัดมาร้อยให้เป็นรูปวงกลมเพื่อทำหัว

 
5.เอาลูกปัดมาร้อยด้านล่างเพื่อทำขา
6.เอาลูกปัดมาร้อยทำเป็นแขน
7.เอาลูกปัดสามลูกมาทำเป็นหาง
ภาพเสร็จสมบูรณ์
 
 
 
 
 
ขั้นตอนการทำรูปสุนัข

1ตัดเอ็นประมาณ1วา
 



2เอาลูกปัดมาร้อยให้เป็นรูป4เหลี่ยมจัตุรัส


3เอาลูกปัดมาร้อยใส่อีกให้เป็นรูป4เหลี่ยมพื้นผ้า4เอาลูกปัดมาร้อยใส่ให้เป็นรูป4เหลี่ยมอยู่ข้างบนเพื่อที่จะทำเป็นหัว


4เอาลูกปัด4ลูกมาร้อยขึ้นข้างบนให้เป็นรูป4เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อทำหัว


5เอาลูกปัดมาร้อยขึ้นอีกเพื่อทำตา




6เอาลูกปัดมาร้อยอีก3ลูกเพื่อทำเป็นหู




7เอาลูกปัดร้อย3ลูกด้านล่างเพื่อทำขา


เสร็จสมบูรณ์


ขั้นตอนการทำกระต่าย

ตัดเอ็นประมาณ1วา
 

เอาลูกปัดมาร้อยเป็นรูปวงกลม


เอาลูกปัด4ลูกมาทำขา


เอาลูกปัด2ลูกมาทำแขน


เอาลูกปัดมาทำวงกลมเพื่อทำหัว


เอาลูกปัด5ลุกมาทำหู

 

เสร็จสมบูรณ์

 

สรุปผลและอภิปรายผลงาน

สรุป

    การทำโครงงานการทำพวงกุญแจจากลูกปัดครั้งนี้ทำให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มโครงงานและทำเป็น รูปโดเรมอน,รูปดาว ,รูปสุนัข,รูปกระต่ายเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และนอกจากยังเป็นการศึกษาวิธีการทำ และลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง

อภิปราย

1.            สามารถนำเอาโครงงานมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาข้อมูลในการทำครั้งต่อไป

2.            ใช้ประโยชน์จากรูปเล่มโครงงานไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

3.            นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

4.            ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัว

ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน

           ในการทำโครงงานเรื่องการทำพวงกุญแจจากลูกปัดในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้และศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาประยุกต์ใช้และได้รับประโยชน์ ดังนี้

1.            รู้และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี

2.            ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆและนำมาจัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน เพื่อการศึกษาต่อไป

3.            นำไปประกอบการเรียนรู้ในวิชาที่เกี่ยวข้อง

4.            ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำการทำพวงกุญแจจากลูกปัด

ข้อเสนอแนะ

1.ควรมีการคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติมผลงานให้มีความแปลกใหม่และสวยงามอยู่ตลอดเวลา  

2ควรศึกษาในการร้อย หรือ รูปแบบกาทเรขาคณิตให้ละเอียดก่อนลงมือปฏิบัติ

                                                         



 





 

                                          

 

 
 


 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น