ความหมายของลูกปัด
ลูกปัด คือวัตถุที่มีลักษณะเป็นเม็ด มีรูอยู่ตรงกลาง เพื่อใช้ร้อยด้ายหรือเชือก ลูกปัดถูกใช้เป็นหลักฐานทางโบราณคดีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เนื่องจากมักมีการขุดพบลูกปัดมากมายในแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ทั้งหลาย ลูกปัดโบราณที่ขุดพบนั้นทำมาจากวัสดุต่างๆ อาทิ
1.ลูกปัดหิน และแร่หิน มักถูกนำมาขัดแต่งเป็นลูกปัด มาจากวัสดุต่างๆ เช่น หินคาร์เนเลี่ยน (Carnelian), หินโมรา (Agate), หินเจสเปอร์ (Jesper), หินออนนิกซ์ (Onyx), หินคาลซิโลนี (Chalcedony), หินเขี้ยวหนุมาน (Guartz)
2.ลูกปัดดินเผา
3.ลูกปัดกระดูกสัตว์ เปลือกหอย
4.ลูกปัดโลหะ สำริด ทอง
5.ลูกปัดแก้ว ที่ผลิตขึ้นจากแร่ธาตุต่างๆ
จากการศึกษาลูกปัดในทางโบราณคดี น่าเชื่อได้ว่า ลูกปัดนอกจากจะใช้เป็นเครื่องประดับแล้ว ยังถือว่าเป็นเครื่องรางของขลัง, เป็นเครื่องมือสำหรับแลกเปลี่ยน ซื้อ ขาย แทนเงินตรา และอาจมีเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย
ลูกปัดเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกมาแทบทุกยุคทุกสมัย การค้นคว้าเรื่องราวของลูกปัดนั้น เชื่อว่ามีมายาวนานนับหมื่นปี ซึ่งลูกปัดในยุคนั้นทำมาจากเมล็ดพืช กระดูกสัตว์ เขี้ยวสัตว์ เปลือกหอย และหินที่มีรูอยู่แล้วตามธรรมชาติ เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการมากขึ้น การทำลูกปัดก็ซับซ้อนขึ้น สวยงาม แปลกตาเพิ่มขึ้น เช่นการตกแต่งลวดลายลงไปบนเนื้อหินมีค่า เช่น อาเกต และคาร์เนเลียน เรียกว่า เอตช์คาร์เนเลียน (etched carnelian) ของอินเดีย และซีบีท (dZi beads) ของทิเบต
เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว เชื่อว่ามีการผลิตลูกปัดจากแก้ว เพื่อทดแทนลูกปัดจากหินมีค่า เช่น อาเกตและคาร์เนเลียนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในยุคนั้น ซึ่งเริ่มหายากและราคาแพง ทำให้ผู้คนในยุคนั้นสามารถหาลูกปัดแก้วที่ถูกผลิตขึ้นมาสวมใส่มาทดแทนได้ไม่ยากนัก แหล่งที่มีการผลิตลูกปัดแก้วโบราณที่สำคัญมีอยู่ 3 แหล่ง คือ
1.อียิปต์ (Egyptian)
2.โรมัน (Roman)
3.กลุ่มประเทศอิสลาม ทางตะวันออกกลาง (Islamic influenced Eastern Midditeranian)
ความเป็นมาของลูกปัดแก้ว
แก้วเป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่มนุษย์รู้จักมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 14,000 ปีมาแล้ว เป็นแก้วที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากฟ้าฝ่าลงมาบนพื้นทราย เกิดเป็นแท่งแก้วยาวคล้ายรากไม้ หรือแก้วที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ เรียกว่า หินออบซิเดียน (Obsidian) ซึ่งคนสมัยโบราณจะนำมาทำอาวุธ เช่น มีด ขวาน และหัวธนู นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ชาวโพนีเซียนน่าจะเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่คิดค้นวิธีการทำแก้วได้ จากนั้นชาวอียิปต์และกลุ่มประเทศใกล้เคียงจึงใช้แก้วที่ทำขี้นมานั้น มาขูด หรือเกลากับหินเพื่อทำเป็นลูกปัด ต่อมาก็วิวัฒนาการเครื่องมือเพื่อใช้เป็นแม่พิมพ์
ลูกปัดทวารวดี
ลูกปัดทวารวดี เป็นลูกปัดที่แสดงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นลูกปัดที่ผลิตจากดินเหนียว ในหนังสือ "The History of Beads" ของ Lois Sherr Dubin ได้กล่าวถึงไว้ว่า ลูกปัดแก้วในยุคบ้านเชียง จะมีการผลิตควบคูไปกับการผลิตภาชนะพวกหม้อ ไห และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากเหล็ก (iron) ประมาณเมื่อ 2,300 ปีมาแล้ว ลูกปัดในยุคแรกส่วนใหญ่จะมีสีส้มแดง (สีมันปู) และบางส่วนมีสีน้ำเงิน เหลือง
แต่เป็นที่ทราบกันดีในหมู่คนที่สนใจลูกปัดโบราณว่า สีของลูกปัดทวารวดีนั้น มีทั้งหมด 19 สี แต่ละสีมีคุณสมบัติ แตกต่างกันไปตามความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ครอบครองลูกปัดทวารวดีทั้ง 19 สี จะทำให้ผู้นั้นไม่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ลำบาก และแคล้วคลาดจากอันตราย ปกป้องให้พ้นจากเดรัจฉานวิชา ตลอดจนเขี้ยวงาอาวุธ ส่งเสริมบารมี เงินทองไหลมาเทมา โดยจะใช้เป็นเครื่องประดับสวมคอ และข้อมือ คุณสมบัติของสีอาจแตกต่างกันไปบ้าง แล้วแต่ท้องถิ่น คุณสมบัติของลูกปัดทวารวดี ทั้ง 19 สี มีดังนี้
1.ทวารวดีแท้ ถือว่าดีที่สุด หายากที่สุด สีออกน้ำตาล เนื้อละเอียด คุณสมบัติใช้ป้องกันอาวุธต่างๆ อาทิ ดาป แหลน หลาว ธนู หน้าไม้
2.ทวาลูกยอ มีลวดลายคล้ายลูกยอ มีคุณสมบัติ ใช้ต้มกับลูกยอ เป็นยารักษาโรคได้
3.ทวาหัวดำ ท้ายดำ ตรงกลางขาว ใช้ป้องกันเช่นเดียวกับ ทวารวดีแท้
4.ทวาหัวเทียน หัวดำ จะทำให้เกิดไหวพริบ ปฏิภาน เฉลียวฉลาด หลักแหลม
5.ทวาอำพันทอง อยู่ยงคงกระพัน กันโรคนิ่ว หมากัดไม่เข้า เงินทองไหลมาเทมา ป้องกันสามีมีชู้
6.น้ำเงินเนื้อกษัตริย์ มีอำนาจวาสนา ส่งเสริมวาสนาให้สูงส่ง นำโชค
7.หยก ป้องกันอุบัติเหตุ กันผี เป็นมหามงคลอันอุดม
8.เหลือง มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม คนรักใคร่ ไม่เกลียดชัง
9.เหลืองสวาท หรือเหลืองตองอ่อน เสน่ห์แรง คนรักใคร่ลุ่มหลง
10.แสลน ป้องกันอุบัติเหตุ ป้องกันสามีมีชู้
11.หยกขาว ให้อายุมั่นขวัญยืน ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้
12.ฟ้า มีโชคลาภ ร่ำรวย
13.ดำ กันผีสาง กันขโมย นำโชคมาสู่
14.เขียวหนุมาน (แก้วสารพัดนึก) นึกอะไรได้ทั้งนั้น
15.ส้มมันปู อยู่ยงคงกระพัน ร่ำรวย ไม่อดอยาก ดูดพิษสัตว์ได้
16.น้ำผึ้ง มีวาสนา มีความสุข มีชีวิตสดชื่นอยู่เสมอ
17.สีอิฐ ป้องกันเขี้ยวงา อสรพิษกัดต่อย
18.สีแดงเข้ม มีอำนาจดุจพญาราชสีห์ คนไม่กล้าทำร้าย
19.สีม่วง คนเมตตาสงสาร นำทรัพย์สินมาให้ อุปถัมภ์ และคอยให้ความช่วยเหลือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น